Digital Economy

คลิกเข้าร่วมระบบนิเวศ Green Mobility https://freedom.world/green-mobility

City Token for Development : โทเคนเพื่อการพัฒนาเมือง ติดตามเราได้ผ่านทาง LINE Official

เพิ่มเพื่อน

การพัฒนาเมือง เป็นเครื่องมือทางนโยบายที่สำคัญของประเทศ (Engine of Growth) ที่จะยกระดับการเติบโตทางเศรษฐกิจ ลดความเหลื่อมล้ำและกระจายศูนย์กลางความเจริญ เพื่อตอบเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (Sustainable Development Goals – SDGs) ตามเกณฑ์ที่ได้รับการยอมรับของสากล โดยเป้าหมายร่วมของการพัฒนาเมืองในบริบทประเทศไทย คือ การพัฒนาเมืองในแต่ละท้องถิ่น เพื่อสามารถเป็นศูนย์กลางทางเศรษฐกิจที่น่าอยู่และชาญฉลาด (Livable and Smart City) ตลอดจนสถานการณ์ปัจจุบันเมืองและประเทศต่าง ๆ ทั่วโลกเผชิญกับความท้าทายการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (Climate Change) นำไปสู่การค้นหาแนวคิดและระเบียบวิธีการพัฒนาเมืองได้อย่างยั่งยืน

แนวคิดการพัฒนาอย่างยั่งยืน และ COP27 หรือ UNFCCC COP (United Nations Framework Convention of Climate Change Conference of the Parties) การประชุมรัฐภาคีกรอบอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ครั้งที่ 27 ตลอดจนการพัฒนาทางเทคโนโลยีการสื่อสาร ขับเคลื่อนการพัฒนาเข้าสู่ยุค 4.0 ทั้งนี้ประเทศไทย ยังได้เกิดนโยบายการพัฒนาประเทศ Thailand 4.0 ได้กำหนดกลุ่มอุตสาหกรรมเป้าหมาย หรือ New S-Curve ไว้ ซึ่งการพัฒนาเมืองอัจฉริยะหรือเมืองชาญฉลาด เป็นประเด็นย่อยของอุตสาหกรรมเป้าหมาย ด้านดิจิทัล

เมืองที่น่าอยู่และชาญฉลาด (Livable and Smart City) เป็นหนึ่งในแนวคิดสำคัญ ซึ่งคาดว่าจะกลายเป็นกลไกขับเคลื่อนพัฒนาเมืองได้อย่างยั่งยืน สามารถนำไปสู่การสร้างกลไกความร่วมมือเพื่อการพัฒนาเมือง ระหว่างภาคีเครือข่ายต่าง ๆ ที่ประกอบไปด้วย ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียที่สำคัญ (Key Stakeholder) และผู้รับประโยชน์ (People/Citizen) ที่นำไปสู่ 1) กลไกแผนและนโยบาย 2) กลไกการลงทุน และ 3) กลไกการเรียนรู้และประเมินเมือง และสามารถพัฒนาและยกระดับการให้บริการสาธารณะของเมือง (City Services) โดยมีพื้นฐานกระบวนการมีส่วนร่วมดังกล่าวมาจากการวิเคราะห์ข้อมูลของระบบข้อมูลเมืองที่มีระบบตรวจสอบย้อนกลับ (Feedback Loop) ตลอดจนสามารถก่อเกิดกลไกการสร้างแผนการพัฒนาเมืองด้านการบริการสาธารณะและการลงทุนที่สอดคล้องกับดัชนีเมืองน่าอยู่และเมืองที่ชาญฉลาด

เมืองอัจฉริยะหรือเมืองชาญฉลาด (Smart City) มีแนวคิดการใช้ “เศรษฐกิจดิจิทัล (Digital Economy)” เป็นเครื่องมือในขับเคลื่อนการพัฒนาเศรษฐกิจและประเทศ การทบทวนโครงการดัชนีชี้วัดเศรษฐกิจดิจิทัล[1] (DPE : The Digital Platform Economy Index) ประจำปี ค.ศ.2020 โดย GEDI (The Global Entrepreneurship and Development Institute) ถ้าใช้กรอบแนวคิดด้าน DPE จะส่งผลต่อการพัฒนาผลิตภัณฑ์มวลรวม หรือ GDP (Gross Domestic Product)

ภาพความสัมพันธ์ระหว่างมูลค่าผลิตภัณฑ์มวลชนของแต่ละประเทศทั่วโลกกับการใช้ดัชนีชี้วัดเศรษฐกิจดิจิทัลในการพัฒนาเมือง

ที่มา: https://thegedi.org/wp-content/uploads/2020/12/DPE-2020-Report-Final.pdf

ดังนั้นการพยายามค้นหาแนวทางการพัฒนากลไกเศรษฐกิจดิจิทัลด้านบริการสาธารณะของเมืองโคราชสู่เมืองที่น่าอยู่และชาญฉลาด สามารถกลายเป็นเป็นส่วนหนึ่งของการเป็นระบบโครงสร้างพื้นฐานเชิงนิเวศส่งเสริมความเป็นเมืองอัจฉริยะของเมืองโคราช และก่อเกิดผลลัพธ์และผลกระทบในวงกว้าง ตลอดจนการเกิดปฏิสัมพันธ์ที่สร้างมูลค่า (Network Effect) ส่งเสริมระบบนิเวศเมืองอัจฉริยะ และสามารถนำไปสู่การกำหนดแผนพัฒนาเมืองกับบริการสาธารณะ โดยใช้ระบบการจัดการข้อมูลเมืองเป็นฐานสำหรับกระบวนการวางแผนแบบมีส่วนร่วม (Deliberative Planning) ท่ามกลางภาคีเครือข่ายพัฒนาเมืองโคราช และสามารถเรียนรู้ในการประเมินสถานะของเมืองโคราชร่วมกัน เพื่อการกำหนดวิสัยทัศน์ นโยบาย แผนงานและโครงการ กับการลงทุนที่เกี่ยวข้องการบริการสาธารณะในระดับเชิงพื้นที่เมืองให้นำไปสู่ความเป็นเมืองที่น่าอยู่และชาญฉลาด สอดคล้องดังแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 13 พ.ศ.2566-2570 ในหมุดหมายที่ 8 ว่าไทยมีพื้นที่และเมืองอัจฉริยะที่น่าอยู่ ปลอดภัย เติบโตได้อย่างยั่งยืน


[1] https://thegedi.org/wp-content/uploads/2020/12/DPE-2020-Report-Final.pdf

GMT : Green Mobility Token to Ecosystem at Freedom World platform.